mva คืออะไร

1.mva คืออะไร

market value added เป็นความแตกต่างระหว่างราคาตลาด ณ ปัจจุบันของธุรกิจและเงินทุนที่ได้รับจากนักลงทุน โดยถ้า mva มีค่าเป็นบวกแสดงว่าธุรกิจมีมูลค่าเพิ่มขึ้น หากค่า mva มีค่าติดลบแสดงว่าธุรกิจมีมูลค่าน้อยลง ซึ่ง mva นั้นจะวัดมูลค่าทางบัญชี

โดย mva สามารถคำนวนได้จาก mva = v - k

กำหนดให้ v เป็น ราคาตลาดในปัจจุบันของธุรกิจ และ k เงินในการลงทุนในครั้งแรก

2.eva คืออะไร

economic value added เป็นตัวสะท้อนถึงผลกำไรที่แท้จริงของบริษัท โดยนำเอาผลกำไรที่แท้จริงหักจากค่าเสียโอกาสจากการลงทุนของกิจการ ซึ่งจะเป็นกำไรทางเศษฐศาตร์เพราะรวมคิดค่าเสียโอกาสในส่วนของเจ้าของเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

โดย eva สามารถคำนวนได้จาก eva = nopat -c.K

กำหนดให้ nopat คือ net operating after taxes , c คือค่า wacc (ซึ่งจะกล่าวถึงในข้อที่ 5) และ k เงินในการลงทุนในธุรกิจในคร้ังแรก

3.mva กับ eva เกี่ยวกันและสัมพันธ์กันยังไง

โดยปกติแร้วนะ eva มักจะใช้ในการวัดผลการทำงานหรือกำไร ณ ปีนั้นๆ เนื่องจาก ที่ eva นั้นใช้ nopat มาทำการประเมิน แต่ในส่วนของ mva จะใช้วัดมูลค่าตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท(ใช้ราคา ณ ราคา ipo) ซึ่งก็หมายถึง ผลรวมของ eva ในแต่ละปี ตั้งแต่ปีเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันก็จะมีค่าเป็น mva นั่นเอง

โดยความสัมพันธ์ของ eva และ mva สามารถคำนวนได้จาก

mva = for(i=1;i< i++){ mva+=(eva i/ pow((1+c) ,i) ) } ; t เป็นปีที่ก่อตั้ง

(พิมพ์ summation ไม่เป็นนะค่ะ)

4.fcf คืออะไร

free cash flow คือกระแสเงินสดที่สามารถนำไปใช้ได้ คือเงินสดในมือจริงๆ ที่สามารถเอาไปจ่ายให้กับเจ้าหนี้หรือผู้ถือหุ้น หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้นั้นเอง

โดย fcf สามารถคำนวนได้จาก

fcf = cfo - net investment

CFO = cash flow from operations

net inverstment เงินที่จะเอาไปลงทุนทั้งหมด

5.wacc คืออะไร
weighted average cost of capital ค่าเฉลี่ยต้นทุนการลงทุนของกิจการ จากการที่แหล่งที่มาของเงินทุนนั้นมีต้นทุนที่ไม่เท่ากัน เช่น การที่เราจะลงทุนเงินในกิจการหนึ่ง อาจมาจากเงินทุนของเรา 50% และกู้ธนาคาร 50% เพราะฉะนั้นแน่ๆ เราต้องจ่ายดอกเบี้ยธนาคาร และในส่วนของเรานั้นก็ต้องคำนวนค่าเสียโอกาสจากที่จะเอาเงินก้อนนี้ไปลงทุนที่อื่น เป็นต้น